เส้นทางสู่การคืนสนามของ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์

ข่าวกีฬา (ในประเทศ - ต่างประเทศ)

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฮาร์สี่ย์ เอลเลียตต์ ถูกยกให้เป็นหนึ่งในอนาคตของวงการฟุุตบอลอังกฤษ หลังจากที่เขาทำผลงานในระดับเยาวชนได้ดีจนขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ ฟูแล่ม ได้เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2019 ทั้งที่เพิ่งมีอายุ 16 ปี ก่อนที่จะได้มาฝึกฝีเท้ากับ ลิเวอร์พูล ต่อ

กราฟชีวิตของ เอลเลียตต์ กำลังไปได้สวยในตอนแรก ทั้งจากการที่ทำผลงานได้ดีตอนเล่นให้ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ด้วยสัญญายืมตัวเมื่อฤดูกาลก่อน และได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นซีซั่นนี้ แต่เขาก็ต้องชนกับกำแพงเข้าอย่างจังจากการได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าในเกมกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อช่วงเดือนกันยายน ปีก่อน ซึ่งมันทำให้หลายคนเสียดายมากๆ ที่เขาต้องพักนานทั้งที่กำลังมาดี

อย่างไรก็ตาม เอลเลียตต์ ก็กลับมาลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ได้อีกครั้งในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 4 นัดทื่ ลิเวอร์พูล ชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 3-1 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยเขาทำประตูได้ด้วย ทำให้นี่ถือเป็นลูกแรกของแข้งวัย 18 ปีกับการเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ซึ่งมันก็ถือเป็นการเดินทางที่ยาวนานและน่าประทับใจสำหรับเขาพอตัว

ไม่กี่วันหลังจากได้รับบาดเจ็บตรงข้อเท้าในเกมกับ ลีดส์ นั้น เอลเลียตต์์ ก็เดินทางไปรับการผ่าตัดที่กรุงลอนดอนทันที เพื่อที่จะรักษารอยร้าวและความเสียหายตรงเอ็นที่อยู่แถวข้อเท้าซ้าย โดยที่ จิม โมซอน แพทย์ประจำสโมสรคอยดูแลและให้ความช่วยเหลือเขาอย่างใกล้ชิด

“การกลับมาของเขาเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ เราจะไม่กดดันเขาด้วยการกำหนดกรอบเวลาสำหรับการทำเรื่องต่างๆ เราบอกได้เพียงว่าเราคาดว่าเขาจะกลับมาลงเล่นได้อีกครั้งในฤดูกาลนี้” คือคำพูดของ โมซอน ในตอนนั้น โดยที่จริง โมซอน ก็เป็นคนที่ช่วยขยับข้อเท้าของ เอลเลียตต์ ให้กลับเข้าที่ตั้งแต่ 30 วินาทีหลังจากที่แข้งชาวอังกฤษได้รับบาดเจ็บแล้ว

เป็นที่เชื่อกันว่าคนภายใน ลิเวอร์พูล มองว่า เอลเลียตต์ จะกลับมาซ้อมได้ในช่วงเดือนมกราคม และคืนสนามได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แต่แค่ 3 สัปดาห์หลังจากได้รับบาดเจ็บ เอลเลียตต์ ก็กลับมาซ้อมในโรงยิมที่ เคิร์คบี้ ศูนย์ฝึกของทีมได้แล้ว แถมยังสามารถวิ่งจ็อกกิ้งได้ภายในช่วงเดือนตุลาคมด้วย

สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ เอลเลียตต์ สามารถฟื้นฟูสภาพร่างกายได้อย่างยอดเยี่ยมจนถึงขนาดที่ไม่มีการสะดุดเลยนั้น ก็คือการที่เขามีทัศนคติที่มองโลกในแง่บวกอยู่เสมอ ว่ากันว่าขนาดเพื่อนร่วมทีม ลิเวอร์พูล ที่เคยต้องพักเป็นเวลานานเหมือนกับเขา อย่างบเช่น อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, โจ โกเมซ และ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ต่างก็ทึ่งด้วยซ้ำที่ เอลเลียตต์ ยังคิดโลกในแง่ดีได้ ต่างกับพวกเขาที่เคยมีอาการซึมในระดับหนึ่งในช่วงที่ต้องพักรักษาตัว

นอกจากนี้ เอลเลียตต์ ก็ยังฟังคนอื่นอยู่เสมอและพร้อมที่จะทำตามที่ได้รับคำแนะนำอยู่ตลอดด้วย ซึ่งมันก็ทำให้หนึ่งในสตาฟฟ์ของ ลิเวอร์พูล ถึงขั้นให้คำนิยามกับพฤติกรรมของ เอลเลียตต์ เลยว่าเป็น “การฟื้นฟูสภาพร่างกายของตัวเองในเชิงรุุก”

ทั้งนี้ ตอนที่ ลิเวอร์พูล ทำการถ่ายรูปรวมที่ เคิร์คบี้ ศูนย์ฝึกของทีมนั้น เอลเลียตต์ ก็ยังมาร่วมวงถ่ายรูปในสภาพที่ใส่เฝือกเลย พร้อมกับแสดงให้เห็นว่าอยากเข้าร่วมชมเกมที่ แอนฟิลด์ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งปกติแล้วนักเตะที่เจ็บหนักมักจะไม่มีพฤติกรรมแบบนี้

“นักเตะส่วนใหญ่น่ะไม่อยากทำเรื่องแบบนั้นสักเท่าไหร่หรอก เพราะมันทำให้พวกเขานึกถึงสิ่งที่พวกเขาอดทำ แต่ว่า ฮาร์วี่ย์ ต่างออกไปอย่างชัดเจน เขาไม่เคยบ่นอิดออดแม้แต่ครั้งเดียว และรู้สึกดีที่ได้มีส่วนร่วมกับทุกอย่าง” แห่ลงข่าวที่อ้งาว่าเป็นคนของ ลิเวอร์พููล ระบุ

ขณะเดียวกันมันก็ต้องให้เครดิตกับบรรดานักเตะรุ่นพี่ของ ลิเวอร์พูล ด้วย เพราะพวกเขาคอยให้กำลังใจ เอลเลียตต์ อยู่เสมอ อย่างเช่นการส่งข้อความหาเขาในกลุุ่มแชทบ่อยๆ และการทำให้มั่นใจว่าเขาจะยังมีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่างๆ ของนักเตะภายในทีม ซึ่งสิ่งเหล่านั้นทำให้ เอลเลียตต์ มีกำลังใจมากขึ้นไปอีก

นอกจากนี้ ในช่วงเวลานั้น เอลเลียตต์ ก็ยังทำงานร่วมกับ ด็อกเตอร์ เดวิด ไรดิ้งส์ โค้ชด้านการฟื้นฟูสภาพความฟิตของ ลิเวอร์พูล อย่างขยันขันแข็งเช่นกัน จนในที่สุดเมื่อถึงช่วงเดือนธันวาคม เขาก็สามารถซ้อมกับลูกบอลได้ แล้วจากนั้นก็กลับมาซ้อมกับเพื่อนๆ ได้ โดยมี คล็อปป์ ที่มองอย่างเป็นห่วงจากบนระเบียงตรงออฟฟิศของตัวเอง

แน่นอน คล็อปป์ ยังลังเลว่าจะรีบส่ง เอลเลียตต์ กลับมาลงเล่นเลยดีรึเปล่า ดังนั้นเขาเลยหารือกับทุกฝ่ายแล้วจัดเกมอุ่นเครื่องระหว่างทีมเยาวชนของ ลิเวอร์พูล กับทีมเยาวชนของ เร็กซ์แฮม ขึ้นมาเป็นการพิเศษในช่วงโปรแกรมเกมทีมชาติ เพื่อที่จะให้ เอลเลียตต์ ได้ออกเรี่ยวออกแรงสักกหน่อย ซึ่ง เอลเลียตต์ ก็ผลงานได้โดดเด่นด้วยการทำได้ 1 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ จนช่วยให้ทีมชนะไป 5-1

ทั้งนี้ หลังจบเกมนั้น เอลเลียตต์ ยังมอบรองเท้าสตั๊ดของตัวเองให้กับ ออลลี่ ฮิตช์ค็อกซ์ แข้งเยาวชนของ เร็กซ์แฮม ด้วย หลังจากที่ ฮิตช์ค็อกซ์ เป็นแฟนตัวยงของ ลิเวอร์พูล จนถึงขนาดที่มีตั๋วปีของสโมสร ซึ่ง ฮิตช์ค็อกซ์ ก็บอกด้วยว่าฟอร์มในเกมนั้นของ เอลเลียตต์ “มันน่าเหลือเชื่อมากๆ”

เกมกับ คาร์ดิฟฟ์ ถือเป็นการเริ่มต้นการคืนสนามที่ยอดเยี่ยมของ เอลเลียตต์ และมันก็ต้องจับตาดูว่าหลังจากนี้เขาจะยังทำผลงานที่โดดเด่นได้ต่อไปหรือไม่

อ้างอิง
https://www.siamsport.co.th/football