“บล.คันทรี่ กรุ๊ป” คัด 9 หุ้นเด่นน่าเทรดดิ้งสัปดาห์นี้ (31 ม.ค.-4 ก.พ.65)

เศรษฐกิจ (ในประเทศ - ต่างประเทศ)

“บล.คันทรี่ กรุ๊ป” คาดสัปดาห์นี้ (31 ม.ค.-4 ก.พ.65) นักลงทุนกังวลประเด็นเงินเฟ้อน้อยลง ให้น้ำหนักกำไร บจ.มากขึ้น พร้อมคัดเลือก 9 หุ้นเด่นน่าเทรดดิ้ง

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS เปิดเผยว่า บทวิเคราะห์ประจำสัปดาห์จาก CGS เผยว่าวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 ม.ค.2565) ตลาดหุ้นสหรัฐดาวโจนส์ (Dow Jones) กลับมาฟื้นตัวได้แข็งแกร่ง 1.6% รับแรงซื้อกลับจากกลุ่มเทคโนโลยี ภายหลังนักลงทุนคลายกังวลกับภาวะเงินเฟ้อระดับนึง หลังจากที่รายงานตัวเลขดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้

ด้านทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) สหรัฐอายุ 2 และ 10 ปี เริ่มเห็นการปรับฐานอีกครั้ง (นักลงทุนเข้าซื้อพันธบัตร) โดยฝ่ายวิจัยมองว่านักลงทุนจะเริ่มให้ความสนใจเรื่องของเงินเฟ้อลดลง และหันไปมองปัจจัยอื่นๆ เนื่องจากก่อนหน้าได้ปรับฐานลงมาตอบรับปัจจัยดังกล่าวไประดับหนึ่ง

ประกอบกับช่วงนี้ไม่มีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ โดยคาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ (CPI) จะรายงานช่วงวันที่ 10 ก.พ. ดังนั้น เป็นไปได้ที่สัปดาห์นี้ (31 ม.ค. – 4 ก.พ.) ภาพของการลงทุนน่าจะผ่อนคลายมากขึ้นกว่าสัปดาห์ก่อน (24-28 ม.ค.)

อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าใกล้ปลายสัปดาห์ ต้องติดตามภาคแรงงานสหรัฐที่มีกำหนดรายงานในวันศุกร์นี้ โดย Bloomberg คาดว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐจะอยู่ที่ 1.66 แสนตำแหน่ง พร้อมกับอัตราการว่างงานที่ 3.9% โดยที่มีค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงที่เพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนก่อน หากออกมาต่ำกว่าคาดจะยิ่งทำให้ตลาดผ่อนคลายมากขึ้นกับประเด็นของเงินเฟ้อ

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ แนะจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันนี้ (2 ก.พ.) ซึ่งจะทราบผลทางการวันที่ 3 ก.พ.ช่วงเช้า เบื้องต้นตลาดประเมินว่าที่ประชุมจะเพิ่มกำลังการผลิตเข้ามา 4 แสนบาร์เรลต่อวัน หากออกมาตามนี้ก็คาดว่าจะมีผลกระทบต่อตลาดไม่มากนัก

ส่วนในประเทศสัปดาห์นี้ โดยหลักต้องติดตามผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไตรมาส 4/64 โดย Bloomberg คาดว่าจะเห็น ADVANC IRPC และ INTUCH รายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้

ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน ด้วยทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐที่ดูจะมีผลต่อการลงทุนน้อยลง แรงกดดันจึงน้อยลงไปเช่นกัน ทำให้ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งออกข้าง (ไซด์เวย์) ถึงแกว่งขึ้นในกรอบ 1,630 – 1,655 จุด

โดยมองกลุ่มน่าสนใจซื้อขายเก็งกำไร (เทรดดิ้ง) ระยะสัปดาห์ ได้แก่ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) และศูนย์การค้า (CPN) หลังราคาหุ้นทั้ง 2 กลุ่มสัปดาห์ก่อน เริ่มปรับตัวขึ้นมาโดดเด่น คาดว่ามาจากแนวโน้มผลประกอบการที่จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2564 เป็นต้นไป

กลุ่มส่งออก (TU) จากผลบวกเงินบาทอ่อนค่า และท่องเที่ยว (AOT MINT SPA) จากผลบวกจากการเริ่มโปแกรม Test and Go ตั้งแต่เดือน ก.พ.

สำหรับหุ้นเด่น ได้แก่ CRC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 41 บาท) เป็นหุ้นค้าปลีกที่ยังปรับขึ้นช้า (แลกการ์ด) และคาดว่าผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัวได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2564 เป็นต้นไป แรงหนุนจากการคลายล็อกดาวน์ และยังได้ประโยชน์จากโครงการ ช็อปดีมีคืน ล่าสุด บริษัทได้ประกาศชัดเจนว่าจะไม่เข้าลงทุนศูนย์การค้าในสหราชอาณาจักร ทำให้แรงกดดันด้านการเงินเบาบางลง

ถัดมา PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 146 บาท) การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อสัปดาห์ก่อนให้น้ำหนักเป็นบวก คาดกำไรไตรมาส 1 ปี 2565 ปรับดีขึ้นเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จาก 1) ยอดขายและราคาขายเฉลี่ยที่โตขึ้น 4% และ 2% จากไตรมาสก่อน ตามลำดับ และ 2) ขาดทุนด้อยค่าสินทรัพย์ที่ไม่มีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับ 6.0 พันล้านบาทในไตรมาส 4 ปี 2564

อ้างอิง
https://www.bangkokbiznews.com/business